การที่คนเราจะออกรถยนต์ สัก 1 ค้นนั้นจะต้องมีความพร้อมในเรื่องของ เงินวางดาวร์ เงินผ่อนในแต่ละงวด หรือค่า ซ่อมบำรุงในระหว่างที่ใช้รถ แลพเรื่องสำคัญเลยที่ขาดไม่ได้ นั้นก็คือ ประกันภัยรถยนต์ ที่เวลาเราเกิดเหตุ ก็ยังมีประกันค่อยดำเนินการให้เรา ได้โดยไม่ยุ่งยาก แต่ หากเลือกประกัยไม่ดูดี ก็อาจจะเป็นเรื่องเดือดร้อนและยุ่งยากก็เป็นได้นะ วันนี้เรามาดูวิธีการเลือกประกันภัยรถยนต์ให้เหมาะสมกับตัวเองกันดีกว่า
1. เลือกประกันภัยรถยนต์จากสไตล์การใช้รถ
เริ่มต้นต้องประเมินจากประสบการณ์ พฤติกรรมการใช้รถ และอายุของรถที่ขับ
- ประสบการณ์การขับรถ เช่น เป็นมือใหม่หัดขับ หรือขับรถมานานแล้ว
- พฤติกรรมการใช้รถ เช่น ขับรถทุกวัน/ขับรถออกต่างจังหวัดบ่อย ขับรถแค่ใกล้ ๆ หรือขับรถวันละหลาย ๆ สิบกิโล
- อายุของรถที่ขับ เช่น รถใหม่ป้ายแดงอายุการใช้งานไม่เยอะ หรือเป็นรถเก่ามือสองที่พร้อมจะเกเรได้ทุกเมื่อ
2. เลือกแผนความคุ้มครองที่อยากได้รับการดูแล
โดยเลือกจาก ความเสี่ยงในการใช้รถของตัวเองที่ประเมินไว้
- เลือกประกันภัยรถยนต์ชั้น 1
ให้ความคุ้มครองครอบคลุมมากที่สุดในทุกกรณีทั้งตัวรถและตัวบุคคลของทั้งคนขับและคู่กรณี จุดเด่นของประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 คือ สามารถเคลมรถได้โดยที่ไม่มีคู่กรณี ไม่ว่าจะถอยชนเสา ชนต้นไม้ ชนฟุตบาท หรืออื่น ๆ นอกจากนี้ยังคุ้มครองกรณีที่รถหาย ไฟไหม้ และน้ำท่วมอีกด้วย - เลือกประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+
ให้ความคุ้มครองใกล้เคียงกับประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 แต่ราคาเบี้ยต่อปีค่อนข้างแตกต่าง โดยประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ จะ คุ้มครองทั้งตัวรถและตัวบุคคลของทั้งคนขับและคู่กรณี แต่จะต่างตรงที่สามารถเคลมรถได้เฉพาะอุบัติเหตุที่มีคู่กรณีเป็นรถเท่านั้น หากไม่มีคู่กรณีหรือถูกชนแล้วหนีจะไม่สามารถเคลมได้ นอกจากนี้ยังคุ้มครองรถหาย ไฟไหม้ และน้ำท่วมอีกด้วย แต่ก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของบริษัทประกันภัย - เลือกประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+ ให้ความคุ้มครองทั้งตัวรถและตัวบุคคลของทั้งคนขับและคู่กรณี และสามารถเคลมรถได้เฉพาะอุบัติเหตุที่มีคู่กรณีเป็นรถเท่านั้น หากไม่มีคู่กรณีหรือถูกชนแล้วหนีจะไม่สามารถเคลมได้ และจะไม่คุ้มครองกรณีรถหาย ไฟไหม้ แต่จะคุ้มครองเพียงกรณีน้ำท่วมเท่านั้น
